วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มหากาพย์แห่งน้ำ บทสี่ : หายนะสมดุล









นายก ตลกหญิง ยิ่งฟุ้งซ่าน 
บริหาร จัดการน้ำ ทำปี้ป่น
นักการเมือง ธุรกิจ งานผิดคน
ไม่เชื่อ ปราชญ์แห่งชล ยากพ้นภัย 

แสดงตัว ตลกฝืด ยืดบทบาท
เมื่อผิดพลาด ไม่ยอมแพ้ เพื่อแก้ไข
วันนี้พูด พรุ่งนี้เพี้ยน เปลี่ยนวนไป
   น่าสังเวช ประเทศไทย อะไรกัน

เรือดันน้ำ ลงดำน้ำ ลิงขำกลิ้ง
แพรกแฝกยิ่ง แตกต่าง เอาขวางคั่น
ยิ่งแก้ ยิ่งย่ำแย่ แหลรายวัน 
น้ำท่วมพัง พนังกั้น กรุงบรรลัย

น้ำก้อนใหญ่ คือน้ำ ธรรมชาติ
ย่อมไหลลาด ลงต่ำ ตามร่องไหล
เขื่อนคืออ่าง เก็บน้ำ สำรองไว้
พร่องสู่ไร่ นาแล้ง แบ่งตามเกณฑ์
ใครสั่งให้ ไม่พร่อง และ ต้องปล่อย
เพื่อคนถ่อย นาเถื่อน เหมือนรู้เห็น
เพื่อจำนำ ข้าวเปลือก เลือกรอดเร้น
บรรหาร จัดการเป็น มหันต์ภัย

คนลิขิต กล้าท้า ฟ้าลิขิต
แลกด้วย ราษฎร์วิกฤต ผิดครั้งใหญ่
น้ำท่วมก่อ น้ำครำ เกิดน้ำใจ
สร้างน้ำอด น้ำทนไว้  ใช้เรี่ยวแรง
พี่จุดไฟ น้องท่วมเมือง เรื่องบัดซบ
พร่องเท่าไร เลวไม่ลบ เอาพระแสง
ให้หอกหัก ข้างแคร่ แหย่ทิ่มแทง
คอยอีแร้ง ทึ้งซาก ลากศพไทย

ปากน้ำโพ อโยธยา น้ำบ่าลด
มันคือกฎ แห่งธาร ผ่านทางไหล
ผู้นำ นำข่าวดี นี่อะไร
 มวลน้ำ กำลังไป ทะลายกรุง
กลไกรัฐ เคลื่อนย้าย เลวร้ายแล้ว
พายเรือแจว แพวิบาก แสนยากยุ่ง
เขตจุดเสี่ยง เฝ้าระวัง นั่งตบยุง
ป้าหลานลุง ประชาชน ต้องขนย้าย
 เสียงสัญญาน อันตราย ย้ายประเทศ
ผนวกเขต ขอบเขมร เป็นสี่ฝ่าย
ปลูกข้าวปี ละสี่ครั้ง ช่างโลภร้าย 
ปล้นขุดขาย น้ำมัน ก๊าซ ฟาดอ่าวไทย

นารี ขี่ควายเผือก เสือกแพะผิด
แพะเขาทู่ สู้ขวิด ครั้งยิ่งใหญ่
ควายไล่น้ำไหลผ่าน สะพานควาย
ไทยจึงได้ หายนะ สมดุล























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น